กองหน้าร่าเริง - เยนกิสข่าน
เยนกิสข่าน
จากหนังสือ "กองหน้าร่าเริง" ฉบับที่ ๑๙๖
มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า..... วันหนึ่ง เยนกิสข่าน มหาราช ได้ไปล่าสัตว์ในป่าและหลงทางต้องกลับตามลำพังคนเดียว ทั้งนี้เพราะความเพลิดเพลินในการไล่ติดตามสัตว์จนพลัดกับขบวนข้าราชบริพาร
เหยี่ยวของเยนกิสข่าน บินวนเวียนรอบตัวเจ้าของซึ่งกำลังนั่งอยู่บนหลังม้าและมีอาการกระหายน้ำยิ่ง เยนกิสข่านพยายามหาน้ำเพื่อดื่มดับกระหาย ในที่สุดก็ได้พบน้ำหยดลงมาจากก้อนหินใหญ่ข้างทาง จึงเอาถ้วยออกรองรับน้ำทีละหยดและได้น้ำเกือบถึงครึ่งถ้วย เมื่อเยนกิสข่านยกถ้วยน้ำขึ้นจะดื่ม เหยี่ยวก็บินโผลงมาเอาปีกตีถ้วยน้ำหกหมด
เยนกิสข่านพยายามรองน้ำทีละหยดนั้นและจะดื่มอีกสามครั้ง ก็ปรากฏว่าถ้วยน้ำถูกเหยี่ยวใช้ปีกตีตกทั้งสามครั้งติด ๆ กัน ทั้งนี้เป็นเหตุให้กษัตริย์นักรบผู้กระหายบันดาลโทสะสุดขีด ถึงกับชักดาบออกเตรียมไว้ ขณะที่ยกถ้วยน้ำจะดื่มเป็นครั้งที่สี่ เหยี่ยวตัวนั้นก็โผลงมาปัดถ้วยน้ำกระเด็นตกลงไปในเหวลึกเบื้องล่าง พร้อมกันนั้นดาบในมือเยนกิสข่านก็ฟาดฉับลงไปผ่ากลางตัวเหยี่ยวออกเป็นสองซีก เลือดของเหยี่ยวซึ่งปราศจากชีวิตก็สาดอยู่บนพื้นดิน...
“ถ้วยน้ำของข้าตกลงไปในเหวเสียแล้ว !” เยนกิสข่านคำราม “แต่ข้างบนก้อนหินนี้ต้องมีต้นน้ำ.... ข้าจะปีนขึ้นไปดื่มให้สมที่กระหายมานาน ณ บัดนี้ !” พูดแล้วจอมนักรบก็ปีนขึ้นไปบนภูเขา และก็ได้เห็นน้ำฝนขังอยู่ในแอ่งหินใหญ่บนนั้น น้ำใสมากจนสามารถแลเห็นก้นแอ่งอย่างชัดเจน และที่ก้นแอ่งนี้ เยนกิสข่านก็ได้เห็นงูใหญ่ตัวหนึ่งนอนตายอยู่และส่งกลิ่นเหม็นเน่าขึ้นมาต้องจมูก มันเป็นงูพิษร้ายแรงมากชนิดหนึ่ง
เยนกิสข่านจึงเข้าใจพฤติการณ์ที่เหยี่ยวซื่อสัตย์ของตนได้ขัดขวางไม่ให้ตนดื่มน้ำจากแอ่งหินนี้ ความกระหายน้ำก็เลยหมดสิ้นไปทันที คงเหลือแต่ความเศร้าสลดอาลัยรักเหยี่ยวผู้จงรักภักดีตัวนั้น แต่ก็สายเสียแล้ว ความใจเร็วของเยนกิสข่านได้เป็นเหตุให้ชีวิตเหยี่ยวดับไปอย่างน่าเสียดาย
เรื่องนี้สอนให้เราทุกคนจงยับยั้งชั่งใจ อย่าได้ยอมเป็นทาสของความโกรธ ทุกครั้งที่บันดาลโทสะเราก็ต้องพยายามหักห้ามความบุ่มบ่ามใจร้อน ค่อยพิจารณาหาทางทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ในเจตนาของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน และถ้าเราเป็นฝ่ายผิดก็ต้องเร่งรีบแสดงความเสียใจ ชดใช้ให้แก่เขาทันที ดังนี้จึงจะสมกับที่เราเป็นผู้เจริญ ดำรงอยู่มนศีลธรรมอันดีงาม

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น