กองหน้าร่าเริง - บัวกลางบึง

 บัวกลางบึง

 จาก "กองหน้าร่าเริง" ฉบับที่ ๑๗๘


 

“หริชัย  ลูกของเราเป็นเด็กฉลาดและแข็งแรง”  พระราชาแห่งโยนกนาคนครรำพึงอยู่ในใจ  ขณะที่เฝ้ามองดูโอรสของพระองค์วิ่งเล่นอยู่ในราชอุทยานอันกว้างใหญ่และสวยงาม  “เวลานี้หริชัยครบแปดขวบแล้ว  นับว่าเป็นวัยอันควรจะได้รับการศึกษา...   เรามองดูแล้วก็ยังไม่เห็นขุนนางคนไหนมีคุณวุฒิสมควรจะเป็นอาจารย์สอนลูกเราได้เลยแม้แต่คนเดียว...”

ทันใดนั้น  เจ้าชายหริชัยก็วิ่งเข้ามาหาพระราชบิดา

“เสด็จพ่อ  นี่ไงล่ะ  ผีเสื้อที่ลูกจับได้  ลูกจะขังมันไว้ในกรงทอง  เพื่อดูว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป”

“ลูกเอ๋ย  ผีเสื้อย่อมต้องการอิสรภาพ   มันต้องมีดอกไม้ และที่กว้าง ๆ สำหรับบินไปมาตามความพอใจของมัน   แต่เหตุไฉนลูกจึงจะขังมันให้หมดอิสรภาพ?”

“แต่กรงที่ลูกจะใส่มันไม่ใช่ที่คุมขังธรรมดานะ  เสด็จพ่อ...  กรงนี้สวยงามมาก  และลูกจะเลือกดอกไม้สวยที่สุดใส่ไว้ในกรงด้วย...”

“หริชัย  ลูกควรเข้าใจนะว่า  ที่คุมขังทำด้วยทอง  ก็ยังคงเป็นที่คุมขังอยู่นั่นแหละ  มันจะเป็นอื่นไม่ได้...”

“ถ้าเช่นนั้น  ลูกควรทำอย่างไรต่อไปจึงจะดี ?”

“ปล่อยผีเสื้อไปสู่อิสรภาพ  แล้วลูกจะได้เห็นมันกลับไปมีความสุขอยู่กับญาติพี่น้องของมัน  อย่ากักขังมันไว้เลย...”

เจ้าชายหริชัยปลดปล่อยผีเสื้อออกจากตาข่ายทันที   ผีเสื้อตัวนั้นก็บินออกไปจากที่นั่นด้วยอาการร่าเริง   ที่ได้รับอิสรภาพกลับคืนมา

“ลูกของเราจะต้องเริ่มเรียนตั้งแต่บัดนี้”   พระราชารำพึงต่อไป  ขณะที่เจ้าชายหริชัยวิ่งติดตามดูผีเสื้อตัวนั้นบินเที่ยวหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้    “เราต้องหาครูมาสอนให้ลูกรู้หลักธรรมอันดีงาม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความยุติธรรม  ความโอบอ้อมอารี  และคุณสมบัติอื่น ๆ  ซึ่งผู้ปกครองประเทศต้องมีเป็นหลักธรรมประจำใจ  เพื่อจะได้เป็นที่รักและเคารพของประชาราษฎร์...”

วันรุ่งขึ้น พระราชาก็ประกาศรับสมัครบรรดาผู้คงแก่เรียนเพื่อคัดเลือกเป็นพระอาจารย์  ฝ่ายพวกปราชญ์และบัณฑิตผู้รอบรู้คงแก่เรียนทั้งหลาย  เมื่อได้ทราบข่าวก็แห่กันมายังพระราชวัง  ปรากฏว่าส่วนมากเป็นผู้ชราหนวดเครายาวรุงรัง  หอบหนังสือตำรับตำราและเครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ  ซึ่งมีทั้งเครื่องดนตรีดีดสีตีเป่า  เครื่องเขียน  เครื่องแกะสลัก  และอาวุธแปลก ๆ มากมายหลายประการ  ติดมือมาด้วยทุกคน

เจ้าชายหริชัยนั่งเฝ้าดูขบวนปราชญ์และบัณฑิตอยู่ริมหน้าต่างชั้นบน ณ ตำหนักที่บรรทมของพระองค์ด้วยความสนใจ

“ขอให้เสด็จพ่อทรงเลือกอาจารย์หนุ่ม ๆ ให้เราเถิด  อาจารย์แก่ ๆ ไม่ทันใจเราแน่ทีเดียว”  เจ้าชายปรารภกับตนเอง

เมื่อบรรดาผู้สมัครเข้ามาในพระราชวังพร้อมหน้ากันแล้ว   พระราชาก็เลือกสรรตามวุฒิของแต่ละคน  พระองค์เลือกชายชราชื่อวิทยากรเป็นพระอาจารย์ฝ่ายความรู้รอบตัวทั่วไป  ต่อจากนั้นก็เลือกพระอาจารย์วัยกลางคน ซึ่งได้แก่ วัชรินทร์  ผู้เชี่ยวชาญในวิชาการแกะสลักโลหะ  ส่วนพระอาจารย์หนุ่มที่สุดก็คือ สุนทรศิลป์  ซึ่งมีฝีมือในการยิงธนูแม่นยำเป็นที่หนึ่งไม่มีสองในราชอาณาจักรนั้น

เมื่อได้เลือกพระอาจารย์ทั้งสามแล้ว  พระราชาก็ตรึกตรองอยู่ในใจว่า  ในจำนวนทั้งสามคนนี้  ควรแต่งตั้งให้คนไหนเป็นพระอาจารย์ใหญ่   ขณะที่พระราชากำลังใช้ความคิดอยู่นั้น  ประตูก็เปิดและชายหนุ่มในวัยสามสิบเศษก้าวเข้ามาถวายบังคม  ชายหนุ่มผู้นี้ไม่มีหนังสือ  ไม่มีเครื่องมืออาชีพใด ๆ ถือติดมือมาด้วยเลย   เครื่องนุ่งห่มของเขาก็เป็นเสื้อผ้าเรียบ ๆ ไม่ฉูดฉาดบาดตา  เขาแต่งกายและวางท่าทางอย่างคนธรรมดาสามัญ   แต่นัยน์ตาของเขามีประกายสดใส  และแววแห่งความเฉลียวฉลาดปรากฏอยู่

“ด้วยเหตุผลกลใด  ท่านจึงมาสายกว่าทุกคนในที่นี้?”   พระราชาคาดคั้น

“ขอเดชะ  พระราชอาชญาไม่พ้นเกล้าฯ  เหตุที่ข้าพเจ้ามาสายก็เพราะระหว่างทางที่เดินมา  ข้าพเจ้าได้พบบึงใหญ่แห่งหนึ่งกลางป่า  และกลางบึงนั้นมีดอกบัวสวยงามมากดอกหนึ่ง  ดอกบัวนั้นยังไม่บาน  ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นความสวยงามถึงขนาดนั้นเลย  ข้าพเจ้าจึงชะโงกหน้าและทอดกายลงนอนพังพาบเฝ้าดูมันด้วยความตื่นเต้นสนใจเหลือที่จะยับยั้งไว้ได้  ขณะที่ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นจากขอบฟ้า  สูงขึ้นทีละน้อย ๆ  พร้อมกันนั้นกลีบบัวก็ค่อย ๆ เผยออกรับแสงแดดยามรุ่งอรุณทีละน้อยจนกระทั่งบานเต็มที่ทั้งดอก   สีดอกบัวนั้นขาวดุจหิมะ  เงาของมันที่ปรากฏอยู่ ณ ผิวน้ำใสสะอาดนั้นงามตระการราวกับภาพเนรมิต  ข้าพเจ้าอดเสียมิได้ที่จะต้องขอบคุณพระผู้สร้าง  และข้าพเจ้าภาวนาขอให้ดวงวิญญาณของเจ้าฟ้าหริชัยจงดำรงอยู่ในความสะอาดบริสุทธิ์ดุจดอกบัวนั้น   ขอให้คุณธรรมอันดีงามทุกประการสถิตอยู่ ณ ดวงหฤทัยมกุฎราชกุมาร  เป็นที่รักของไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ตลอดกาลเทอญ”

“ขอโมทนาพระเป็นเจ้าสูงสุด!”  พระราชาอุทานด้วยความปลาบปลื้มปีติ   “ท่านนี่แหละคือบุรุษที่ข้าพเจ้าปรารถนา  และพระเป็นเจ้าได้ทรงพระกรุณาชักนำท่านมาหาข้าพเจ้า  ! โอรสของข้าพเจ้าจะได้ศึกษาศิลปะวิทยาทั้งหลายจากท่านวิทยากร  ท่านวัชรินทร์  และท่านสุนทรศิลป์   แต่ส่วนทางวิญญาณของเด็ก  ข้าพเจ้าขอมอบท่านรับหน้าที่เป็นอาจารย์อบรมสั่งสอนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”

ชายหนุ่มผู้มีนามว่า  กุศลธร  จึงได้รับแต่งตั้งเป็นพระอาจารย์ฝ่ายศีลธรรม  และมีบรรดาศักดิ์สูงกว่าอาจารย์ผู้อื่น ๆ ด้วยประการฉะนี้  

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

MOSCOW

ช่วงชีวิตหนึ่งของผม

กองหน้าร่าเริง - เจ้าชายสามพี่น้อง